Självet kan även kallas realsjälvet

Självet kan även kallas realsjälvet, som är uppfattningen om oss själva. Erfarenheter och information som inte passar ihop med den egna självbilden kan enligt Rogers skapa en känsla av hot mot oss själva. Därför förvränger vi det som vi anser strida mot självbilden. Utöver realsjälvet har vi ett idealsjälv, som är en bild av hur vi skulle vilja vara. Om dessa överensstämmer känner vi oss tillfredsställda, men gör de inte det så skapas ett missnöje.

En annan del i Rogers teori är villkorslös kärlek. Han menar att om barnet får kärlek och accepteras så som han/hon är så överensstämmer idealsjälvet med realsjälvet och kongruens (överensstämmelse) uppstår. Stämmer de inte överens uppstår inkongruens, alltså att idealsjälvet och realsjälvet inte avspeglar varandra. En fullt fungerande person enligt Rogers har en kongruent självbild (alltså idealsjälvet överensstämmer med realsjälvet)
Ett glapp mellan hur man är och hur man vill vara kan uppstå när ett barn får ett intvingat beteende, alltså att barnet måste göra någonting för att bli accepterad. Exempelvis har en pojke i klassen tagit på sig rollen som klassens clown och för att bli accepterad måste han fortsätta spela clown fastän han kanske inte vill det.

Results (Thai) 1:

ตัวเองยังจะเรียกว่าจริงด้วยตนเอง ที่มีการรับรู้ของตนเอง ประสบการณ์และข้อมูลที่ไม่พอดีกับภาพของตนเองด้วยตนเอง ตามของโรเจอร์ สร้างความรู้สึกคุกคามตนเอง ดังนั้น ทำเราควรพิจารณาให้สอดคล้องกับภาพตัวเอง นอกจากตัวจริง เรามีตนเองดี ซึ่งเป็นภาพว่าเราต้องการเป็น ถ้าตรงนี้ เราพึงพอใจ แต่พวกเขาไม่ทำมันจะสร้างความไม่พอใจเป็นส่วนหนึ่งของทฤษฎีของโรเจอร์สเป็นเถอะ เขาเชื่อว่าถ้าเด็กได้รับความรัก และยอมรับให้เป็นอุดมคติเพื่อให้สอดคล้องกันของตนเองกับตนเองจริง และลงตัว (มาตรฐาน) เกิดขึ้น พวกเขาไม่เห็นด้วย จาก นั้น ที่เกิดขึ้น inkongruens เหมาะสำหรับตัวเองและตัวตนจริงไม่สะท้อนกัน คนงานตามโรเจอร์สที่มีภาพตนเองสอดคล้องกัน (ว่าตัวเองเหมาะกับตัวจริง) ช่องว่างระหว่างวิธีก็วิธีมันจะมักจะเกิดขึ้นเมื่อเด็กได้รับลักษณะ intvingat คือ ที่เด็กต้องทำสิ่งที่เป็นที่ยอมรับ เช่น เด็กในชั้นเรียนได้ดำเนินบทบาท ของตัวตลกชั้น และ จะต้องยอมรับเขาต้องเล่นตลกแม้ว่าเขาอาจไม่ต้องต่อ

Results (Thai) 2:

ด้วยตัวเองนอกจากนี้ยังสามารถเรียกว่าตัวตนที่แท้จริงซึ่งเป็นการรับรู้ของตัวเอง ประสบการณ์และข้อมูลที่ไม่เหมาะสมกับภาพตัวเองของพวกเขาตามโรเจอร์สสร้างความรู้สึกของภัยคุกคามต่อตัวเอง ดังนั้นเราจึงบิดเบือนสิ่งที่เราพิจารณาตรงกันข้ามกับภาพตัวเองของพวกเขา นอกจากนี้ยังมีตัวตนที่แท้จริงเรามีตัวเองเหมาะซึ่งเป็นภาพของวิธีการที่เราอยากจะเป็น ถ้าพวกเขาทำตามที่เรารู้สึกพอใจ, แต่พวกเขาไม่ได้ทำมันที่สร้างความไม่พอใจ. เป็นส่วนหนึ่งของทฤษฎีโรเจอร์สก็คือรักที่ไม่มีเงื่อนไข เขาเชื่อว่าถ้าเด็กได้รับความรักและการยอมรับในฐานะที่เขา / เธอเพื่อให้สอดคล้องกับตัวเองที่เหมาะและตัวตนที่แท้จริง, ความสอดคล้องกัน (การปฏิบัติ) เกิดขึ้น ไม่เห็นด้วยไม่ลงรอยกันเกิดขึ้นจึงว่าตัวเองเหมาะและตัวตนที่แท้จริงไม่ได้สะท้อนถึงกันและกัน คนทำงานอย่างเต็มที่ตามที่โรเจอร์สมีความสอดคล้องกันตนเองภาพ (เช่นตัวเองเหมาะที่สอดคล้องกับตัวตนที่แท้จริง) ช่องว่างระหว่างวิธีการมันคืออะไรและวิธีการที่คุณต้องการที่จะสามารถเกิดขึ้นได้เมื่อเด็กได้รับพฤติกรรม intvingat แล้วเด็กจะต้องทำอะไรบางอย่างที่จะได้รับการยอมรับ ยกตัวอย่างเช่นเด็กในชั้นเรียนในบทบาทของตัวตลกชั้นเรียนและได้รับการยอมรับที่เขาจะต้องเล่นต่อตัวตลกแม้ว่าเขาอาจไม่ต้องการมัน

Results (Thai) 3:

ตนเองก็ยังสามารถเรียก realsj และ lvet ซึ่งคือการรับรู้ของตนเอง ประสบการณ์และข้อมูลที่ไม่เหมาะกับภาพพจน์ของตัวเองได้ตาม Rogers , สร้างความรู้สึกคุกคามถึงตัวเรา ทำไมเราทำสิ่งที่เราคิดว่าจะเป็นตรงกันข้ามกับภาพลักษณ์ของตน . นอกจากนี้ realsj และ lvet เรามี idealsj และ LV ซึ่งเป็นภาพที่เราต้องการให้เป็น ถ้าพวกเขาจะสอดคล้องกัน เรารู้สึกพอใจ แต่พวกเขาจะไม่สร้างความไม่พอใจอีกส่วนหนึ่งของทฤษฎีของ Rogers " เป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไข เขาเชื่อว่า ถ้าความรักของเด็ก และการยอมรับ เพื่อให้เขา / เธอเพื่อให้สอดคล้องกันและ idealsj lvet กับการศึกษาและ lvet realsj kongruens ( conformity ) เกิดขึ้น ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น inkongruens ดังนั้นการศึกษาและการศึกษา lvet idealsj realsj lvet ไม่สอดคล้องกับแต่ละอื่น ๆ ทํางานเต็มที่ คน ตาม โรเจอร์ส มีภาพลักษณ์ที่สอดคล้อง ( idealsj lvet และสอดคล้องกับ realsj และ lvet )ช่องว่างระหว่างที่คุณและวิธีที่คุณต้องการจะสามารถเกิดขึ้นได้ หากเด็กได้รับ intvingat ความประพฤติ ดังนั้นเด็กจะต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อที่จะได้รับการยอมรับ ตัวอย่างเช่น เด็กในชั้นเรียนได้รับบทบาทในฐานะตัวตลกของห้อง และได้รับการยอมรับ เขาจะยังคงเล่นตลก แม้ว่าเขาอาจจะไม่ได้ต้องการมัน